เป็นบทสัมภาษณ์หนึ่งของจียง สมัยอัลบั้ม Stand up 2008
ลีดเดอร์แห่งวง “บิ๊กแบง” G- dragon ชื่อจริงคือ ควอน จียง มาในลุคส์ ขอบตาดำสวมกางเกงยีนส์ขาเดบสีแดง.และ มันก็ยิ่งทำให้เค้าดูดีขึ้นเมื่อเค้าสวมไหมพรมรอบคอของเค้า .
เค้ามี รอยสักด้านหลังคือ “too fast to live too young to die” และที่แขนทั้งสองข้าง “ vita dolce” และ “moderato” แทนที่จะเลือกคำว่า “andante”(จังหวะที่ค่อนข้างช้าและเรียบ) หรือ “ allegro” (จังหวะที่สั่นและเร็ว) เค้ากลับเลือกคำว่า “moderato” (จังหวะที่เร็วพอประมาณ) เพราะเค้าอยากให้ชีวิตเค้าเป็นเหมือนกับ“moderato”(ไม่เร่งรีบและไม่ช้าเกิน ไปแต่ เป็นไปอย่าง สม่ำเสมอ พอประมาณ).
เค้าทำตัวสบายเมื่อมองเข้ามา ในกล้องราวกับว่านี่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันเค้า.เมื่อฉันเห็นเด็ก ในวัย 21 ปี เป็นแบบนั้นทำให้ฉันนึกถึง รอยสักบนตัวเค้าและพยายามที่จะเข้าใจมัน “moderato”เป็นไปได้ว่าเค้า ได้ค้นพบสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองแล้ว
G-dragon ได้รับการฝึกฝนมาเป็นเวลานาน ภายใต้สังกัด YG entertainment สมัยที่เค้าอยู่ประถม ผู้คนเรียกเค้าว่าเป็น แร็ปเปอร์ ที่อายุน้อยที่สุดในเกาหลี ตามปกติแล้วเค้า จะใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในโลกของผู้ใหญ่ดังนั้น ชีวิตวัยเด็กของเค้าจึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว.
ประวัติของ ควอน จียงที่มีอยู่มากมายใน อินเตอร์เนท เป็นผลมาจาก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และ กลุ่มแฟนคลับที่คลั่งไคล้ที่ต่าง โพสข้อมูลเกี่ยวกับ G-dragon หลังจาก เดบิวต์ รูปของเค้าก็มีอยู่ทั่วไปตามอินเตอร์เนท รวมทั้ง คลิปที่เค้าได้ไปออกตาม รายการ ทีวี ต่างๆด้วย
GD “ตั้งแต่ที่ผมยังเป็นเด็ก ผมคิดว่าทำไมแม่ผมถึงอยากให้ผมมาอยู่ที่นี่ (วงการบันเทิง) แต่เมื่อมาคิดตอนนี้ ผมคิดว่า ที่ผมมาอยู่ตรงนี้ได้ก็เพราะแม่ของผม แต่มันก็เป็นเรื่องยากจริงๆ สำหรับผม (ที่ต้องทำงานตั้งแต่ยังเด็ก)”
นิสัยและท่าทางของเค้าถอดแบบมาจากแม่และพี่สาวที่น่ารัก ทำให้เมื่อโตขึ้นใครต่อใครต่างพากันหลงเสน่ห์เค้ามากมายท่ามกลางสปอตไลท์ เค้ารู้ว่าต้องทำยังไงเพื่อให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงตัวตนที่เค้าเป็น.
GD “ผมมีภาพลักษณ์ ของคน ขี้เล่น (ในที่นี้หมายถึง ชอบเล่น มากกว่าทำงาน)”
GD “ผมมีภาพลักษณ์ ‘nal la lee’”(rebel(ดื้อรั้น),gangsta(พาล),player(ขี้เล่น)) ผมรู้สึกแย่นิดหน่อย ตอนที่ผมเรียนจบ มันก็ถึงเวลาที่ผมจะเล่น และผมจะเล่นให้สุดๆ ยิ่งกว่านั้น ชีวิตรักของผม มันก็ยากที่จะเข้าใจผมเป็นคนที่ชอบอยู่กับแฟนนานๆ และถ้าผมมีแฟน ในหัวผมก็จะคิดถึงแต่แฟน และเข้าข้างแฟน นั้นมันทำให้ผมไม่มีทาง โกรธเธอได้เลย (แม้เธอจะทำอะไรผิดงั้นเหรอ) ถ้าผมจะมีแฟนก็ต้องเป็นใครสักคนที่เหมือนผม และเข้าใจในตัวผม บางครั้งเธออาจจะคิดว่าผมไม่ชอบเธอ เพราะผมพูดไม่ค่อยเก่ง”
ตอนนี้ฉันคิดว่าเค้าก็มีด้านที่บริสุทธิ์เหมือนกัน นี่เป็นอีกด้านของเค้าที่ แตกต่างจากที่ผู้คนพูดถึงกัน ทั้งซุกซน และตรงไปตรงมา
GD “ผมไม่ค่อยจะเป็นสุภาพบุรุษ ถึงผมจะเด็ก แต่ผมก็จะแสดงให้เห็นตัวตนของผมกับทุกคน ผมเป็น perfectionist เพราะผมชอบให้ทุกอย่างมันเป็นระเบียบ ผมเกลียด เวลาที่มีอะไรบางอย่างผิดพลาด และไม่เป็นระเบียบ. อย่างเช่น ถ้าผมใช้ของเสร็จแล้ว ผมก็จะวางมันกลับไว้ที่เดิม และถ้าผมใช้เสร็จผมก็จะทำความสะอาดทุกครั้ง. ก็เหมือนกับความสัมพันธ์กับคนอื่น ถ้าผมไม่พอใจอะไรหรือกับใคร ผมก็จะรีบพูดทันที ผมไม่ชอบเก็บมันไว้”
ฉันรู้ แต่ผู้คนส่วนใหญ่พยายามที่จะหลีกเลี่ยง ไม่ยอมทำความเข้าใจอย่างนี้
GD “แล้วยังไง ถ้าเค้าไม่ยอมจบมัน ผมก็คงจะเป็นคนเดียวที่คิดอย่างนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า”
เป็นเพราะแม่เค้า พาเค้าเข้าสู่วงการตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้เค้ามีพลังที่จะอดทนต่อความกดดันต่างๆในโลกธุรกิจดนตรี. เค้าเขียนเพลง แต่งเพลง และโปรดิวซ์ เค้าคือผู้อยู่เบื้องหลังเพลงของ BIGBANG
แต่เมื่อปีที่แล้ว เค้าต้องโดนคำครหาจากผู้คน เมื่อพวกเค้าสงสัยในความแปลกใหม่ของเพลง LIE.นั่นสิ ทำไมพวกเค้าจะต้องแปลกใจในเมื่อ BIGBANG ทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์ อย่าง Daishi Dance ในอัลบั้มใหม่ของพวกเค้า .ใน เกาหลี Shibuya kei Band และ Dashi Dance เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงมาก Bigbang เลยถูกกล่าวหาว่าลอกผลงานจากพวกเค้ามา GD นิ่งสักพัก ก่อนที่เค้าจะผงกหัว เป็นเชิงว่าจะพูด
GD “พูดตรงๆ คือ ผมได้แรงบันดาลใจ จากดนตรีของพวกเค้า ตั้งแต่ที่ผมเริ่มแต่งเพลง ผมรู้สึกเสียใจต่อสมาชิกคนอื่นๆ และรู้สึกผิดหวังในตัวเอง ผมเป็นคนตรง มีความรับผิดชอบ และสำนึกในสิ่งที่ตัวเองได้ทำ หลังจากเกิดเหตุการณ์ ในครั้งนั้น ทำให้ผมคิดมาก ประธานของวายจี Yang Hyung Suk เลยจับให้ผมได้ทำงาน กับ Daishi Dance”
ฉันคิดว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้พวกเค้าโตขึ้น (ทั้งในด้านของศิลปิน และด้านของคนทั่วไป) เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆนั้น. รูปแบบการทำงานเพลงอย่างรวดเร็ว เป็นสิ่งแรกที่จะเปลี่ยน ในการทำงานเพลงอัลบั้มใหม่ของพวกเค้า(จียงบอกว่าเค้าทำงานเพลง เสร็จภายใน 1 ถึง 2 ชั่วโมง ถ้าเค้ามั่นใจว่ามันถูกต้อง) หลังจากการทำงานนานหลายชั่วโมง ในงานเพลง เค้าจะเช็คมันอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่า เค้าไม่พลาดรายละเอียดอะไรไป นี่คงเป็นผลมาจากการเรียนรู้ความผิดพลาดในครั้งนั้นของเค้า GD บอกว่านั้นมันทำให้เค้ากลายเป็นนักดนตรีที่เติบโตขึ้นมากกว่าเดิม หลังจากที่เค้าได้เรียนรู้กับเรื่องดังกล่าว และต้องต่อสู้กับตัวเอง
GD “ถ้าผมอยู่คนเดียว แต่สามารถทำให้คนฟังเพลงเพิ่มขึ้นได้ แม้จะเป็นเพียงน้อยนิด ผมก็พอใจ. โดยส่วนตัวผมคิดแบบนั้น เมื่อคนได้ยินเพลง จะต้องอยากฟังมันอีก โดยธรรมชาติแล้ว คนฟังเพลงจะช่างเลือก ประมาณว่า เพลงที่ฟังเป็นเพลงอะไร แตกต่างกันรึปล่าว คุณภาพแย่ไหม .นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมนักดนตรีจะต้องเป็นมากกว่านักร้องที่ดี และทำให้ผู้คนเลือกซื้ออัลบั้มของตนได้.เพราะฉะนั้นการทำงานเพลงให้ออกมามีคุณภาพดี จึงสำคัญมากสำหรับผม”
เมื่อฉันได้ยิน GD อธิบายหลักการทางดนตรีของเค้าแล้ว ฉันได้เปลี่ยน ทัศนคติที่มองเค้าใหม่ ควอน จียง ในวัย 21 พูดได้ดี ดูมีแสงส่องประกายมาจากท่าทางนั้น และเหตุผลที่ว่า ทำไม ควอนจียง และ บิ๊กแบง ถึงเป็นที่น่าสนใจก็คือ พวกเค้าได้พัฒนา งานเพลงพวกเค้าอย่างต่อเนื่อง ฉันขอทายว่า อนาคตพวกเค้าจะต้องประสบความสำเร็จ อย่างแน่นอน ถ้าพวกเค้ายังยึดมั่นในอุดมการณ์อย่างนี้
Park Soyoung-Elle feature editorcredit: english ver : wonderkidtrans to thai : calalat@bigbangthailand
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น