08 กรกฎาคม 2553
[TRANs] BIGBANG on EXILE Magazine “แน่นอนว่าเราเคยไปเที่ยวคลับ พวกเราดื่มแต่ไม่บ่อย”
“เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วหลังจากที่เราได้เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น ผมสงสัยว่าพวกเราจะเป็นยังไงในอนาคต
จะได้รับความรักอย่างมากมายจากผู้คนที่เห็นคุณค่าในเพลงของพวกเราแบบนี้ต่อไปรึเปล่า พวกเราต้องตั้งใจทำงานให้หนักขึ้นอีก”
- G-Dragon -
ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเป็นเวลาครบหนึ่งปีแล้วหลังจากที่ BIGBANG ได้เปิดตัว(ในญี่ปุ่น)
และพวกคุณก็ได้รับรางวัลมากมายนอกจากนั้นพวกคุณยังมีทัวร์คอนเสิร์ตอีก รู้สึกยังไงกันบ้าง?
G-DRAGON: ใช่ครับ หลายสิ่งหลายอย่างได้เกิดขึ้นและมันก็เป็นปีที่ยุ่งมากๆเลยครับ ตั้งแต่พวกเราตัดสินใจว่าจะมาเปิดตัวในญี่ปุ่น
พวกเราก็แบกรับความกดดันไว้เยอะมาก แต่เราก็ต้องขอขอบคุณแฟนคลับของพวกเราที่คอยให้การสนับสนุนพวกเราด้วยจริงๆครับ
D-LITE: ตลอดช่วงเวลาที่จัดคอนเสิร์ตในเดือนกุมภาพันธ์ มันรู้สึกดีมากๆเลยครับที่ได้ร้องและเต้นไปพร้อมๆกับทุกคน และคอนเสิร์ตครั้งนั้น
มันก็ทำให้พวกเราได้ใกล้ชิดกับแฟนๆมากขึ้นด้วยครับ
SOL: ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เราเริ่มเปิดตัวรวมไปถึงทัวร์คอนเสิร์ตของพวกเรา มันเป็นปีที่พวกเราได้รับความรักและการสนับสนุนอย่างมากมายจริงๆ
ชีวิตของพวกเราและการเป็น BIGBANG ยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ และตารางงานของพวกเราก็ยังคงเต็มและยุ่งอยู่ตลอดเวลาเลยครับ
มีอะไรแตกต่างไหมเวลาที่ผู้คนเจอพวกคุณเดินอยู่บนถนนเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา?
SOL: ในครั้งสุดท้าย ผมว่าคนเริ่มจำพวกเราได้แล้ว แต่ไม่ถึงขนาดที่พวกเราจะโดนล้อมรอบด้วยฝูงคนขนาดใหญ่อะไรแบบนั้นนะครับ (หัวเราะ)
เวลาที่พวกเราออกไปซื้อของหรือทำอะไรที่เป็นการส่วนตัว คนญี่ปุ่นจะไม่กรี๊ดและวิ่งเข้ามาหาเรา พวกเค้าแค่เดินมาใกล้ๆและขอจับมือ
พวกเค้าดูสุภาพอ่อนโยนและมีมารยาทมากๆเลยครับ
T.O.P: จริงๆแล้วผมไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นที่นิยมเลยจริงๆครับ เวลาที่เรามาญี่ปุ่นเพื่อโปรโมตเพลงใหม่ของพวกเราแม้แต่ตอนที่พวกเราอยู่ที่นี่ (ในญี่ปุ่น)
พวกเราก็ยังคงคิดถึงสิ่งที่พวกเราอยากจะทำในเกาหลีอยู่ รู้สึกเป็นไม่สบายใจและเป็นกังวลเกี่ยวกับมัน อาจจะเป็นเพราะเรื่องนี้
ผมถึงไม่มีเวลาที่จะรับรู้ถึงความรักที่ผู้คนรอบๆตัวผมมอบให้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ตอนที่เราได้รับรางวัลจาก VMAJ (Best Pop Video & Best New Artist Video)
ผมก็ได้เข้าใจแล้วว่า BIGBANG ได้รับความรักมากมายแค่ไหนในญี่ปุ่น และผมรู้สึกมีความสุขมากจริงๆครับ
V.I: เมื่อปีที่แล้วในงาน VMAJ พวกเรามาที่นี่เพื่อมอบรางวัล แต่ในปีนี้พวกเราได้มารับรางวัล
ไม่ใช่แค่มารับรางวัลอย่างเดียวพวกเรายังได้ทำการแสดงสดบนเวทีอีกด้วย มันเป็นความรู้สึกที่เยี่ยมมากเลยครับ
ความสัมพันธ์ระหว่าง BIGBANG และ MTV มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ (หัวเราะ)
การแสดงสดในงาน MTV เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมาเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก
พลังและความแข็งแรงในการแสดงสดที่ BIGBANG แสดงออกมานั้นมีเสน่ห์ดึงดูดมาก พอจะบอกได้ไหมว่าพลังและเสน่ห์ดึงดูดพวกนั้นมาจากไหนกัน?
G-DRAGON: อย่างแรกเลย แน่นอนว่าพลังในการแสดงของพวกเรามาจากคนดูครับ แม้ว่าญี่ปุ่นและเกาหลีจะใช้ภาษาที่แตกต่างกันหรือมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมาก
แต่แฟนคลับในญี่ปุ่นก็เรียนรู้เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับเกาหลีเพราะพวกเรา พวกเขาสามารถจดจำเนื้อเพลงภาษาเกาหลีได้ทั้งหมดไม่ผิดแม้แต่คำเดียวเลยครับ
และเพราะแบบนั้นพวกเราเลยต้องทำงานให้หนักมากขึ้นและมากขึ้นด้วยเหมือนกัน ก่อนที่พวกเราจะขึ้นแสดงบนเวทีพวกเราจะไม่คิดถึงความยากที่จะต้องเจอ
แทนที่พวกเราจะคิดแบบนั้น พวกเราจะแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าแล้วก็พูดว่า “Let’s Play!”
และเวลาที่คนฟังรู้สึกแบบนั้นไปกับพวกเราด้วย มันเป็นเวลาที่พวกเรารู้สึกสนุกมากจริงๆครับ
T.O.P: และพวกเราก็จะไม่ใช้กำลังที่มีไปโดยเปล่าประโยชน์ด้วยเหมือนกันครับ
เราจะใช้มันอย่างฉลาด อย่างเช่นพวกเราจะไม่ออกไปเที่ยวเล่นตอนกลางคืนถ้าไม่จำเป็นครับ
BIGBANG ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปเที่ยวตอนกลางคืนใช่ไหม?
SOL: แน่นอนว่าสถานที่อย่างคลับพวกเราเคยไปเที่ยวบ้างครับ พวกเราดื่มเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้บ่อยครับ
T.O.P: ผมไปที่นั่นนะแต่ไม่ค่อยได้ลุกไปเดินดูรอบๆหรอกครับ (หัวเราะ)
ถ้าอย่างนั้นมันก็เหมือนเป็นการหักห้ามใจตัวเองใช่ไหม? (หัวเราะ)
SOL: สำหรับการหักห้ามใจตัวเอง ผมว่าการใช้เวลาอยู่คนเดียวก็เป็นสิ่งที่สำคัญนะครับ ผมมักจะพูดกับคนอื่นบ่อยๆว่าผมชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับตัวเอง
ผมทำแบบนี้มาเป็นปีจนมันกลายเป็นความเคยชิน และผมก็ไม่คิดว่าผมจะสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ ผมชอบที่ผมเป็นแบบนี้ครับ
T.O.P: พวกเราทั้ง 5 คนมีแบบการใช้ชีวิตที่ชอบแตกต่างกันออกไปครับ บางคนก็ชอบที่จะใช้พลังที่มีอยู่ทำสิ่งต่างๆในขณะที่บางคนก็ชอบอยู่เฉยๆมากกว่า
ผลงานเดี่ยวของพวกคุณในเกาหลีก็เป็นอะไรที่ดูมีพลังมากเหมือนกัน มันดูแตกต่างกับการแสดงทั่วไปของ BIGBANG เหมือนกันนะ
G-DRAGON: ช่วงเวลาที่เราได้ทำงานเดี่ยว มันค่อนข้างจะเป็นอะไรที่เป็นส่วนบุคคลมากๆ
เพราะแบบนั้นเราเลยทำอะไรก็ได้ที่เราอยากจะทำ แต่เวลาที่พวกเรา 5 คนทำงานด้วยกัน
แต่ละคนก็จะได้รับการแบ่งหน้าที่และบทบาทแตกต่างกันเราต้องช่วยกันคิดเกี่ยวกับเพลงและท่าเต้น ที่พวกเราทั้ง 5 คนสามารถทำด้วยกันได้ เวลาที่พวกเราอยู่ด้วยกัน
พวกเราต้องเอาใจใส่สมาชิกคนอื่นๆเสมอ เพราะการแสดงที่แสดงออกไปไม่ได้เป็นการแสดงของคนๆเดียว แต่เป็นของพวกเราทั้ง 5 คน
ตอนที่ผมมีผลงานเพลงเดี่ยวของผมเอง ผมทำงานหนักมากๆ ผมพยายามทำอย่างเต็มที่ให้งานออกมาดีที่สุด
ส่วนเวลาที่ผมอยู่กับ BIGBANG ผมจะกลายเป็นคนพิจารณาว่าทำยังไงถึงจะช่วยให้พวกเราทั้ง 5 คนทำงานออกมาได้ลงตัวที่สุด
D-LITE: เวลาที่ทำงานเดี่ยว คุณสามารถแสดงออกถึงความหลากหลายที่มีอยู่ในตัวคุณออกมาได้เวลาที่อยู่กับ BIGBANG ก็เหมือนกัน
คุณจะต้องโชว์สิ่งที่ดีที่สุดในตัวคุณออกมา เหมือนกับเวลาที่อยู่ท่ามกลางสมาชิกทั้งหมด คุณก็ต้องทำในสิ่งที่คุณคิดว่าดีที่สุด (หรือสิ่งที่เหมาะกับคุณมากที่สุด)
SOL: สำหรับผม ส่วนใหญ่แล้วผมจะทำเพลงในแบบที่ผมชอบ มันเหมือนกับการจำกัดตัวเองว่าผมจะต้องเป็น SOL คนที่บริสุทธิ์
เพราะฉะนั้นในกรณีนี้ ผมว่ามันก็ไม่ได้แตกต่างจาก SOL ที่ผมเป็นใน BIGBANG สักเท่าไหร่
ผมเข้าใจแล้ว ทุกคนมีความคิดเห็นของตัวเอง มันคือการแบ่งบทบาทให้แต่ละคนที่เหมาะสมกับมัน
D-LITE: ใช่ครับ โดยปกติแล้วผมจะเป็นคนขี้เล่นชอบเล่าเรื่องตลกแล้วก็วิ่งเล่นไปทั่ว
แต่เวลาที่ BIGBANG อยู่บนเวที ผมต้องพยายามซ่อนส่วนนั้นไว้ ผมจะเพ่งความสนใจไปกับการร้องเพลงและการทำให้คนอื่นฟังเพลงที่ผมกำลังร้องออกมา
V.I: พูดถึงการแบ่งบทบาทให้แต่ละคน ผมก็เป็นเหมือนกับเครื่องปรุงรส การเพิ่มเครื่องปรุงรสลงในอาหารจะทำให้รสชาติของมันเปลี่ยนแปลงไป
ถ้าใส่มากเกินไปแน่นอนว่ามันจะไม่ดีต่อร่างกาย แต่ถ้าคุณใส่ในปริมาณที่เหมาะสมมันจะออกมาเป็นรสชาติที่เยี่ยมมาก
ถ้าอย่างนั้นเครื่องปรุงแบบไหนที่คุณจะเลือกเป็น?
T.O.P: นัตโตะเหรอ?
V.I: ไม่ใช่ มันต้องเป็นอะไรที่ดีกว่านั้น มันต้องเป็นอะไรแบบที่ทำให้คนเสพติดมัน
มันดีแล้วที่คุณไม่เลือกเป็น นัตโตะ (หัวเราะ) เรื่องสุดท้ายที่เราน่าจะต้องคุยกันคือเรื่องภาพยนตร์ IRIS ที่มีเพลง TELL ME GOODBYE เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ รวมไปถึงเพลง HANDS UP ที่ใช้ประกอบรายการ Mezamashi คุณพอจะพูดสรุปให้เราฟังเกี่ยวกับสองเพลงนี้ได้ไหม?
SOL: TELL ME GOODBYE เป็นเพลงที่เศร้ามาก แต่ในขณะเดียวกันเนื้อเพลงก็ยังให้ความรู้สึกสดใหม่ด้วยครับ
D-LITE: HANDS UP เป็นเพลงที่ตรงกันข้ามกับ TELL ME GOOGBYE โดยสิ้นเชิงเลยครับ
มันเป็นเพลงที่จะทำให้คุณอยากลุกขึ้นมาเต้นไปพร้อมๆกับมัน และถึงแม้ว่ามันจะแตกต่างจากเพลง TELL ME GOODBYE
แต่ทั้งหมดก็แสดงออกมาถึง style ของ BIGBANG พวกเราหวังว่าพวกคุณทุกคนจะฟังและรักเพลงทั้งสองเพลงของพวกเราครับ~
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น