"ผมชอบผู้หญิงที่ดูเหมือนแมว'"
"ทั้งเนื้อเพลงและเมโลดี้ในเพลงที่ผมแต่งมาจากประสบการณ์ของผมทั้งหมดครับ แม้ว่ามันอาจจะเป็นแค่ประสบการณ์ที่ผ่านจากการคุยกับผู้คนหรือดูภาพยนตร์ก็ตาม ตอนที่ผมมีความรัก ผมก็เขียนได้แค่เนื้อเพลงที่เต็มไปด้วยความสุข แต่ตอนที่ผมอกหักก็มีแต่เนื้อเพลงเศร้าๆที่แล่นมาในหัว อย่างเพลง 'She's gone' ก็เป็นหนึ่งในอารมณ์ที่เกิดขึ้นตอนดูหนังน่ะครับ"
เพลงที่จียงเขียนทั้งหมดมาจากประสบการณ์ของเขาเอง ดังนั้นผู้ฟังเพลงก็จะได้รับรู้ถึงความรู้สึกของจียงจริงๆ ขณะที่ฟังเพลงของเขา
"ผมคิดว่าผมต้องแต่งมันออกมาจากใจจริงๆครับ คนที่ฟังจะได้สามารถรู้สึกเหมือนที่ผมรู้สึกไปด้วย ตอนที่ฟังพวกเขาอาจจะรู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วยก็ได้ ผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่ใครสักคนจะสัมผัสถึงความหมายของเพลงๆนึงจริงๆ ถ้าเพลงนั้นไม่มีที่มาอะไรเลย"
แต่จียงมี แน่นอน เขาเคยมีความรัก แต่คนรอบตัวเขามักจะเรียกมันว่า 'รักแบบเด็กๆ'
"ผมคิดว่านั่นมันเป็นความรักจริงๆนะครับ แต่เพื่อนสนิทของผมก็ยังชอบบอกว่า 'นั่นไม่ใช่รักแท้หรอก' ทุกทีอะ อาจจะเป็นเพราะผมเป็นคนจำพวกตกหลุมรักกับอะไรสักอย่างเร็วมาก แต่คลั่งได้ไม่นานก็เลิก แต่ตอนนั้นเราคบกันอยู่ระยะนึงเลยครับ"
แล้วเขาก็เป็นคนจำพวกให้ได้ทุกอย่างกับผู้หญิงที่เขารักด้วย แม้บางทีมันอาจจะทำให้เสียงานก็ตาม ตอนที่อยู่กับคนรักจียงแสดงตัวตนจริงๆออกมา และอยากถูกมองในฐานะ 'ควอนจียง' ไม่ใช่ศิลปินที่มีชื่อเสียง ด้วยเหตุผลนี้เขาจึงไม่คิดจะปิดบังเรื่องที่เขามีแฟนต่อสาธารณชนเลย
"พูดไปแล้วมันดูเหมือนเด็กๆเลยนะ แต่ผมทำกระทั่งปล่อยลูกโป่งให้เธอจากท้ายกระโปรงรถ หรือแม้แต่เหมาร้านอาหารเพื่อจัดมินิคอนเสิร์ตให้ (หัวเราะ) ผมไม่ได้อยากให้แฟนของผมคิดว่าผมเป็นศิลปิน เป็นคนมีชื่อเสียง เพราะงั้นผมอยากจะไปสวนสนุกกับเธอโดยไม่ต้องปิดหน้าปิดตา และทำทุกอย่างที่เธออยากให้ทำ คนชอบบอกว่าผมมันบ้าที่ไม่สนใจว่าจะเป็นข่าวมั้ย แม้กระทั่งประธานยางยังปรามผมเรื่องพบกับเธอเลยครับ"
สเป็กของผู้หญิงที่จียงชอบจะต้อง 'เหมือนแมว' ?
"ผมชอบผู้หญิงที่ทั้งหน้าตาและนิสัยเหมือนแมวครับ ชอบผู้หญิงที่พยายามวิ่งหนีแล้วให้ผมพยายามวิ่งตาม แต่จะเข้ามาอ้อนและทิ้งตัวลงในอ้อมแขนของผมเองตอนที่ผมหยุดตามเธออะไรแบบนั้นอะ ต้องเป็นคนที่ผมพึ่งพาได้ แล้วก็สามารถเอาผมอยู่น่ะครับ ผมชอบผู้หญิงที่ดุแล้วก็เข้มแข็ง อย่างน้อยตอนที่ผมมีความรัก ผมอยากที่จะมีใครสักคนที่อยู่เป็นเพื่อนแล้วก็ให้กำลังใจเวลาเหนื่อยๆ"
แต่หลังการผ่านประสบกาณ์เสียใจสักสองสามครั้ง ความคิดของเขาที่มีต่อความรักก็เริ่มเปลี่ยนไป
"ผมไม่เคยบอกเลิกใครก่อนเลย มันพูดไม่ได้จริงๆนะ ถ้าสมมติมีรักครั้งใหม่ในอนาคต ผมคงจะไม่รักเธอหมดใจตั้งแต่เริ่มต้นอีกแล้วล่ะ ผมอยากจะค่อยๆรักไปอย่างช้าๆแล้วล่ะครับตอนนี้"
Article : kr.news.yahoo.com
Translation : sookyeong.wordpress.com
Thai-Translation : pphelpz.exteen.com / @pphelpz
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น