"อัลบั้มนี้เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของผม"
'Heartbreker' ของควอนจียงได้เติมสีสันให้กับโลกดนตรีครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2009 ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันเกิดของเขาเอง
"อันที่จริงแล้วเราตั้งใจจะปล่อยออกมาตั้งแต่เดือนเมษายนแล้วครับ แต่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่น่ะ ประมาณว่ามันยังดูไม่เป็นผลงานที่ผมรอคอยมาตลอดสิบปีเลยนะ ก็เลยมีเหตุผิดพลาดเรื่องเวลานิดหน่อย ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกนานแค่ไหนผมถึงจะมีอัลบั้มใหม่ออกมา อัลบั้มที่ผ่านมานั้นนับเป็นการเสี่ยงโชคครั้งใหญ่ของผมเลยครับ"
ในระหว่างการเตรียมอัลบั้มเดี่ยวของเขาก็เป็นเวลาเดียวกับบิ๊กแบงเริ่มมีงานที่ญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นตอนที่พวกเขาอยู่ที่ญี่ปุ่น ถ้าวันไหนจียงไม่มีตารางงานล่ะก็แม้จะแค่วันเดียวเขาก็จะบินกลับมาที่เกาหลีในตอนเช้าเพื่อที่จะทำอัลบั้มนี้ แล้วก็บินกลับญี่ปุ่นตอนกลางคืน ขณะที่สมาชิกคนอื่นในวงได้ช็อปปิ้งสนุกสนานกับการไม่มีแฟนคลับติดตาม จียงก็กำลังหาซื้อชุดที่จะใช้ในการแสดงของตัวเองอย่างพิถีพิถัน
"ไม่ว่าจะแต่งเพลง เลือกซื้อเสื้อผ้า หรือประชุมผ่านเว็บแคม ผมคิดว่าอัลบั้มนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดถึงมันตลอด 24 ชั่วโมงเลยครับ ผมอยากจะมีส่วนร่วมในอัลบั้มนี้ให้มากที่สุด แล้วก็อยากให้คนอื่นคิดว่า ไม่ใช่แค่มัน'ถูกทำ'ขึ้น แต่ 'ควอนจียงได้ทำมันขึ้นมา' ผมมีส่วนร่วมทุกเรื่องแม้แต่เรื่องเล็กๆอย่างตัวอักษร สี หรือเครื่องประดับ ผมอยากให้อัลบั้มนี้ดูเหมือนกับของขวัญชิ้นใหญ่ที่น่าตกตะลึง อะไรแบบนั้น แม้กระทั่ง CD เพลง เพราะงั้นทุกคนจะเห็นว่าแพ็คเกจของมันจะเหมือนกับของขวัญ และรู้สึกอยากรู้ว่าจะมีอะไรอยู่ในนั้นใช่มั้ยครับ ผมคิดว่านักออกแบบแพ็คเกจต้องคิดว่าผมเป็นพวกบ้ามากๆแน่เลย เพราะผมจะโทรไปหาเขาทันทีที่นึกอะไรออก แม้ว่ามันจะตีหนึ่งตีสองแล้วก็เหอะ(หัวเราะ)"
เขาทุ่มทั้งหมดของตัวเองลงไปในงานเดี่ยวครั้งนี้
"Heartbreaker เป็นเพลงเเกี่ยวกับความเจ็บปวดจากความรัก เพื่อที่จะแสดงว่าหัวใจของผมแตกสลาย ผมจึงให้แดนเซอร์ทุกคนสวมหน้ากากที่เป็นหน้าผม แล้วก็เต้นท่าที่แตกต่างกัน ที่ผมอยากจะสื่อก็คือการแสดงถึงอารมณ์ที่หลากหลายที่ออกมาจากคนๆเดียวน่ะครับ"
จียงได้รับประสบการณ์มากมายที่แตกต่างจากตอนที่ทำอัลบั้มบิ๊กแบง เขาต้องเติมเต็มในทุกๆรายละเอียดด้วยตัวเอง มันทำให้เขาโตขึ้นมากในฐานะศิลปินและรู้สึกว่าการมีสมาชิกคนอื่นอยู่ด้วยมันมีค่ามากแค่ไหน
"ผมได้เรียนรู้เยอะเลยครับสำหรับการทำอัลบั้มนี้ ได้เจอคนมากขึ้นกว่าเดิม มันเป็นเวลาที่ผมต้องสวมบทบาทของ'เด็กน้อย' ในสายตาคนอื่น ที่ปกติแล้วจะเป็นซึงริกับแดซองที่ได้รับมัน แต่ผมก็ต้องแสดงด้านที่จริงจังด้วยเหมือนกัน การทำอัลบั้มนี้ทำให้ผมได้มีโอกาสคลุกคลีกับผู้คนที่แตกต่างกันมากมายแล้วก็ได้เพิ่มสกิลการสื่อสารกับคนอื่น ซึ่งตอนแรกผมไม่ค่อยจะมีหรอกครับ"
ตอนที่ศิลปินได้ปล่อยอัลบั้มของเขาออกมา เป็นปกติที่พวกเขาจะต้องทุ่มเทกับการโปรโมตมัน ถึงอย่างนั้น การโปรโมตในอัลบั้มนี้ของจีดรากอนผ่านทางหนังสือพิมพ์หรือรายการทีวีนั้นน้อยมาก เพราะทาง YG เห็นว่าการแสดงในรายการเพลงนั้นสำคัญกว่าการโปรโมตแบบนั้น
"ผมกังวลมากจริงๆ เพราะพวกเราโปรโมตกันแบบเส้นยาแดงผ่าแปด หลังจากที่ค้นพบว่ามีไอ้สิ่งที่เรียกว่า 'Me2day' ที่มีลักษณะเหมือนบลอคแล้วเนี่ย ประธานยางก็บอกกับผมทันทีเลยว่า 'นี่เป็นวิธีเดียวที่เราจะโปรโมต นายทำมันด้วยตัวเองแล้วกัน' เขาเป็นแบบนั้นเสมอเลยครับ.. เขาจะเป็นแค่คนที่เปิดทางให้พวกเรา หลังจากนั้นเราต้องหาวิธีทำกันเองครับ การโปรโมตนี้ก็ด้วย หลังจากที่ผมเปิดตัว Me2day ของตัวเองแล้ว ผมเริ่มที่จะค่อยๆเผยส่วนของเสื้อผ้าที่ผมใช้ในมิวสิควิดีโอ ค่อยๆโชว์สีผมใหม่ อะไรแบบนั้น ที่สำคัญคือผมอยากจะเป็นคนแรกที่ได้เปิดเพลงของจีดรากอนอะ ก็เลยตัดเพลงมา 30 วิ แล้วก็อัพบางเพลงลงด้วย แล้วก็คิดประมาณว่า 'ถ้าพวกเขาได้เช็คมันก่อนนอน และก็เห็นว่ามันอัพเดท แฟนๆคงจะนอนหลับฝันดี และมีเรื่องที่จะพูดคุยกันที่โรงเรียนในวันรุ่งขึ้นเนอะ' ผมว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมากสำหรับพวกเราทั้งคู่ ทั้งแฟนๆแล้วก็ผมด้วย"
ต้องขอบคุณจียงจริงๆ เพราะหลังจากนั้น Me2day ได้รับความนิยมมากมายทันที เว็บไซต์ที่มีแค่สมาชิกหมื่นกว่าคนได้เพิ่มขึ้นจนถึงแสนคน อีกครั้งที่จียงได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย แต่เขาก็แค่รู้สึกว่ามันเป็นการเริ่มต้นติดต่อกับแฟนๆของเขาแค่นั้นเอง
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม...จียงถูกกล่าวหาว่าคัดลอกผลงาน ในวันสุดท้ายก่อนที่เขาจะปล่อยอัลบั้มออกมา
Article : kr.news.yahoo.com
Translation : sookyeong.wordpress.com
Thai-Translation : pphelpz.exteen.com / @pphelpz
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น