"ชีวิตของเด็กฝึกหัดร่วมกับแทยัง"
จียงได้แสดงร่วมกับแทยังในเอ็มวี A-yo ของ Jinusean พวกเขาทั้งคู่อายุ 13 ปีในตอนนั้นและนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงสนิทกันง่ายนัก
"ครั้งแรกที่ผมเห็นยองเบ มันรู้สึกประมาณว่า 'โอ้ว หมอนี่ใครกันเนี่ย?' แต่เราสองคนก็กลายมาเป็นเพื่อนกันในที่สุด พวกเราไม่เคยทะเลาะกันครับ อาจจะเพราะว่าบุคลิคของเราทั้งคู่แตกต่างกันมาก ตอนผมยังเด็กผมขี้อาย แต่ก็กลายมาเป็นพวกมั่นใจในตัวเองในช่วงวัยรุ่นน่ะครับ ส่วนยองเบเคยเป็นพวกคึกคะนองมากในตอนเด็กๆ แต่ตอนนี้เขากลับใจเย็นลงและกลายเป็นคนจริงจัง ยองเบบอกกับท่านประธานว่า 'ผมอยากเข้าร่วมใน YG ครับ' และประธานยางฮยอนซอกก็ตอบกลับยองเบไปอย่างตลกๆว่า 'โอเค นายเข้ามาได้'"
หลังจากวันนั้นหนึ่งเดือน แทยังเข้ามาในออฟฟิซของ YG และก็ถามประธานยางฮยอนซอกว่าทำไมไม่โทรหาเขา ยางฮยอนซอกรู้สึกถูกใจในความมั่นใจในตัวเองของแทยัง จึงตัดสินใจให้แทยังเข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดเหมือนกับจียง ทั้งสองกลายมาเป็นเพื่อนกัน และแทนที่จะเป็นคู่แข่งแต่พวกเขากลับซัพพอร์ทซึ่งกันและกัน
"มันง่ายกว่ามากที่จะถูกพื้นหรือทำความสะอาดตอนที่คุณมีเพื่อนน่ะ พวกเรามีความทรงจำที่สนุกสนานร่วมกันมากมาย บางครั้งผมกับยองเบก็มานั่งจับเข่าพูดถึงเรื่องอดีต หัวเราะและร้องไห้ไปกับมัน รู้สึกดีครับ"
การเป็นเด็กฝึกหัดมันยากมาก คุณไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตและมีเรื่องมากมายที่ทำให้คุณรู้สึกแย่
"เพราะพวกเราเด็กที่สุดในค่าย มันจึงเป็นช่วงเวลาที่หนักมาก มีตอนที่พี่ฮวีซองไม่สามารถไปเข้าร่วมคอนเสิร์ตของพี่ดองวุคได้จึงต้องส่งพวกเราไปแทน เราสองคนต้องจัดเตรียมเสื้อผ้าด้วยตัวเอง แบกเป้ใบใหญ่ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินไปพร้อมกับผู้คนที่จะไปคอนเสิร์ต หลังจากการแสดงจบลง พวกเขาเห็นเราแล้วถามว่า 'เด็กพวกนั้นไม่ใช่พวกที่เพิ่งแสดงไปใช่มั้ยเนี่ย?' พวกเราดูโอเคบนเวทีแต่หลังจากนั้นมันน่าอายน่ะครับ"
มีครั้งนึง จริงๆแล้วผู้จัดการจะต้องมารับพวกเรา แต่เขาก็ลืม
"เขาต้องมารับเราไปตอน 11 โมงเช้า แต่เขาก็ไม่มาอะ เรารอจนถึง 6 โมงเย็น เพราะเราไม่รู้เบอร์โทรศัพท์ของผู้จัดการและเขาก็บอกให้เรา 'รอ' เรารอจนรถไฟเที่ยวสุดท้ายมาจึงตัดสินใจกลับบ้านกัน วันถัดมา ผมก็ถามเค้าว่าทำไมไม่มา เขาบอกว่าลืม ในตอนนั้นเด็กอย่างพวกเราพูดอะไรไม่ออกเลย เราก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดอีกครั้ง แต่มันรู้สึกเจ็บปวดมากจริงๆครับ"
ดังนั้น เพื่อที่เขาจะสามารถเป็นที่จดจำได้ จียงและยองเบจึงตัดสินใจที่จะต้องทำให้ตัวเองดูพิเศษมากกว่านี้
Article : kr.news.yahoo.com
Translation : sookyeong.wordpress.com
Thai-Translation : pphelpz.exteen.com / @pphelpz
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น