21 กุมภาพันธ์ 2553

(GD)Part 15 : I’m close with the DBSK sunbaes


"ผมเองก็เป็นรุ่นน้องได้ด้วยเหมือนกันนะเนี่ย"








"ช่วงไม่นานมานี้ ผมได้พักเต็มอิ่มเลยหลังจากเพิ่งจบคอนเสิร์ตเดี่ยวไป ข้อจำกัดมากมายที่เคยมีอย่างเช่น ห้ามเที่ยว ห้ามดื่ม ห้ามมีแฟน จบสิ้นกันสักทีครับ ผมนัดเจอเพื่อนแล้วก็ไปหาที่ดื่มกัน ผมเห็นรูปของตัวเองแปะอยู่ที่ร้านแถวทงแดมุนตอนที่เราเดินช็อปปิ้งเลยถามเขาว่า 'เสื้อผ้าพวกนี้มันอะไรน่ะ?' แล้วคนขายก็ตอบกลับมาว่า 'อ๋อ นั่นเป็น G-Dragon Style ค่ะ' เขาจำผมไม่ได้อะ (หัวเราะ)"

ปี 2009 ที่ผ่านมาเป็นปีที่มีความหมายมากสำหรับจียง มันเป็นปีที่เขาได้ออกอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกและจัดคอนเสิร์ตในสไตล์ตัวเองให้โลกได้เห็น จียงรู้ดีว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะผ่อนคลายระหว่างทำงานต้องทำยังไง นั่นก็เพราะว่าเขาเดบิ๊วมาถึง 5 ปีแล้ว

"ผมเคยพยายามที่จะพูดและทำตัวให้เท่ๆให้ดูเป็นมืออาชีพตอนที่ต้องไปงานประกาดรางวัลต่างๆ แต่ช่วงที่ผ่านมา ผมจะพยายามนึกว่ามันเป็๋นปาร์ตี้สักงานแทน งานที่จะทำตัวสบายๆ เช่นใส่ยีนส์ จูงหมา และก็ทำให้ตัวเองมีความสุข ทักทายกับคนมากมายในงานและไม่ต้องสนใจว่ามีกล้องอยู่ตรงไหนบ้าง โห่ร้องออกมาตอนที่รู้สึกสนุก และก็มีความสุขกับการเป็นส่วนหนึ่งของผู้ร่วมงาน"

จียงได้มีโอกาสเป็นเพื่อนกับนักร้องจากค่ายอื่นมากมาย โดยเฉพาะทงบังชินกิจาก SM Entertainment ซึ่งเป็นรุ่นพี่ในวงการทั้งที่ญี่ปุ่นและเกาหลี

"กับรุ่นพี่ทงบังชินกิเราสนิทกันมากขึ้น แต่ก่อนค่ายของเราเคยต้องแข่งขันกันบ่อยมาก แต่มันก็เป็นเรื่องปกติเพราะพวกเราเป็นไอดอลกรุ๊ปเหมือนกัน พี่แจจุงเป็นฝ่ายเข้ามาทำความรู้จักกับผมก่อนครับ หลังจากนั้นผมก็กลายเป็นเพื่อนกับพี่ยูชอนและพี่จุนซูไปด้วย มันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมเองก็เป็นรุ่นน้องได้ด้วยเหมือนกันนะเนี่ย"

จียงจะชอบตื้อให้รุ่นพี่ทงบังชินกิซื้อของกินให้เขาตอนที่พวกเขาอยู่ญี่ปุ่น และพวกเขาก็ได้ให้คำแนะนำกับจียงมากทีเดียว

"ผมนับถือพวกเขามากนะ เพราะเขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างได้ดีขนาดนั้น มันไม่สำคัญหรอกว่าใครจะอยู่ SM หรือ JYP หรืออะไรก็ตาม ผมชอบทุกคนแหละ หลายครั้งที่มีความคิดแบบว่า 'อา คนๆนี้จะต้องผ่านความเจ็บปวดมาเยอะมากแน่ๆ' ไม่ก็ 'เราควรจะแนะนำเรื่องนี้กับเขาดีมั้ยนะ' ผมคิดว่าตอนนี้หัวใจของพวกเรากำลังเปิดรับกันและกัน และผมก็อยากทีจะให้รุ่นน้องเข้ามาทำความรู้จักและพูดคุยกับเราด้วยเหมือนกัน"

แม้จะเป็นรุ่นพี่ที่เดบิ๊วมาถึง 5 ปี แต่บางครั้งจียงก็ยังคงเป็นเด็กที่รู้สึกกลัวอนาคตที่จะมาถึง

"ผมต้องทำต่อไปครับ ปีนี้อัลบั้มของแดซองและพี่ท็อปจะออกมา ส่วนบิ๊กแบงจะกลับมาตอนปลายปี ตอนนี้ผมก็ลุ้นว่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนที่วางไว้มั้ย การทำงานของเราคือ พวกเราจะวางแผนทุกอย่างไว้ก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเวลาให้เหมาะสมที่สุด ขึ้นอยู่กับว่าโปรดิ๊วซ์เพลงเสร็จเร็วแค่ไหน"

ในฐานะลีดเดอร์ของวง จียงต้องทราบถึงกิจกรรมเดี่ยวของสมาชิกทุกคนในวงดีพอๆ กับของวงเลย

"มันมีเรื่องต้องทำเยอะมาก สำหรับแดซองที่จะต้องเตรียมตัวสำหรับอัลบั้มเดี่ยวของตัวเอง ดังนั้นผมคงต้องให้คำแนะนำเขาอย่างมากเลย แดซองน่าจะทำเพลงแนว R&B บัลลาดครับ มันอาจจะแตกต่างจากเพลงของบิ๊กแบงนิดหน่อย ส่วยของพี่ท็อปก็เป็นแนวฮิพฮอพแน่นอนอยู่แล้ว ผมคิดว่าผมคงได้ช่วยพี่เขาทำสักสองสามเพลงครับ"

บิ๊กแบงวางแผนที่จะกลับมาในปี 2010 กับอัลบั้มใหม่และลุคใหม่ๆ และแน่นอนว่า 'ครั้งหน้าจะสำคัญที่สุด'

"พวกเราต้องเดินหน้าต่อในฐานะบิ๊กแบงอีกครั้ง สองอัลบั้มล่าสุดที่ผ่านมาของเราสามารถขึ้นไปถึงจุดๆนึงเท่านั้น ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบนะ แต่ผมคิดว่ามันยังออกมาไม่ได้อย่างที่เราต้องการ และถ้าอัลบั้มที่จะออกในสิ้นปีนี้ยังคงไม่ได้ดั่งใจอีก ผมก็คงจะเกลียดตัวเองไปเลย พวกเราต้องก้าวไปข้างหน้าครับ แม้ว่าจะครึ่งก้าวก็ตาม และตอนนี้ซึงริก็อายุถึงเกณฑ์แล้วครับ เพราะฉะนั้นผมก็คิดไว้แล้วว่าในอัลบั้มหน้าเนี่ยเราคงต้องแสดงถึงความเป็นผู้ชายให้มากกว่าเดิม หมายถึงมากกว่าเป็นแค่วัยรุ่นน่ะครับ(หัวเราะ)"

G-Dragon ดึงดูดพวกเราไว้อยู่หมัดโดยไม่รู้ตัวในฐานะผู้ชายคนนึง ความกล้าได้กล้าเสียของเขามีอิทธิพลอย่างมากในวงการดนตรีของประเทศเรา เราเชื่อว่าตำนานของวงการเพลงกำลังจะถูกสร้างขึ้นมาอีกหนึ่งเรื่อง แล้วตำนานที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมือของของเขาจะมีรูปร่างเป็นแบบไหน?

ได้เวลาแล้วที่จะปล่อยใจให้สบาย และเฝ้ามองดูการสร้างตำนานที่ยิ่งใหญ่ของผู้ชายที่ชื่อว่า 'ควอนจียง'





Article : kr.news.yahoo.com
Translation : sookyeong.wordpress.com
Thai-Translation : pphelpz.exteen.com / @pphelpz

1 ความคิดเห็น: