"พวกเรารีแลกซ์มากขึ้น และรู้สึกว่าได้รู้จักกันมากกว่าเดิม"
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนทั่วไปจะจำชื่อและความสามารถของแต่ละคนในไอดอลกรุ๊ปได้ โดยเฉพาะตอนที่อุตสาหกรรมดนตรีกำลังแข่งขันกันสูงเหมือนตอนนี้ เพราะงั้น ถ้าในกลุ่มมีใครคนนึงโดดเด่นขึ้นมา พวกที่เหลือก็ต้องเปิดทางให้ แต่สำหรับบิ๊กแบงแล้ว นับว่าเป็นหนึ่งในวงหายากที่สมาชิกทุกคนมีบทบาทคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง และต่างคนก็ต่างโดดเด่นไม่แพ้กัน
"ถ้าคุณมองไปที่วงไอดอลธรรมดา สังเกตได้เลยว่ามีไม่ถึงสามคนหรอกที่จะได้รับความสนใจ ส่วนคนที่เหลือก็แค่เป็นส่วนเติมเต็ม น้องเล็กจะไม่ถูกอนุญาตให้พูด แต่สำหรับบิ๊กแบงแล้วจะสลับกันเด่นน่ะครับ เช่น อัลบั้มแรกคือผม อัลบั้มที่สองคือยองเบ"
เพราะประธานยางฮยอนซอกเชื่อว่า กลุ่มนักร้องกลุ่มนึงจะสามารถยืนหยัดบนเวทีได้นานเท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับว่าสมาชิกแต่ละคนได้รับโอกาสที่จะแสดงความเป็นตัวของตัวเองและความทะเยอทะยานได้มากแค่ไหน สมาชิกบิ๊กแบงแสดงความเป็นตัวของตัวเองผ่านทุกช่องทางเท่าที่ตัวเองจะทำได้ มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับวัยรุ่นที่อยากจะโดดเด่นในเส้นทางที่ตัวเองชอบ
"ในขณะที่ผมกำลังแต่งและเรียบเรียงเนื้อเพลง ยองเบก็กำลังอยู่บนเวทีเพื่อแสดงความสามารถทั้งร้องและเต้นของตัวเองในโซโล่ ซึงริที่น่ารักของเรากำลังเล่นละครเวที แดซองกำลังไปได้ดีในวาไรตี้โชว์ของเขา ส่วนพี่ท็อปก็เริ่มมุ่งมั่นในบทบาทนักแสดงทั้งในภาพยนตร์และละคร ถึงแม้ว่าเราจะแยกกันไปทำงาน แต่ผมคิดว่าพวกเรากลับสนิทกันมากขึ้นครับ ต่างคนต่างชอบผลงานของกันและกัน ทุกวันนี้เรามีเรื่องที่จะคุยกันมากมาย พวกเรารีแลกซ์มากขึ้น และรู้สึกว่าได้รู้จักกันมากกว่าเดิม"
ระหว่างที่สมาชิกคนอื่นกำลังแสดงด้านที่แตกต่างของตนเองในงานต่างๆ จียงเองก็กำลังทำงานเดี่ยวของตัวเองอยู่เรื่อยๆ ความสงสัยที่ว่า 'อีกกี่ปีอัลบั้มที่สองของเขาจะออกมา?' และ 'หรือนี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่เห็นควอนจียงในฐานะศิลปินเดี่ยว?' ทำให้เขารู้สึกว่าต้องมุ่งมั่นทำงานโซโล่ของตัวเองต่อไป
Article : kr.news.yahoo.com
Translation : sookyeong.wordpress.com
Thai-Translation : pphelpz.exteen.com / @pphelpz
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น