10 กุมภาพันธ์ 2553

(GD)Part 8 : I wrote Lies to use for my solo

"ผมเขียนเพลง Lies ให้ตัวเอง"






หลังจากเดบิ๊ว บิ๊กแบงได้รับความสนใจมากมายในฐานะ "ไอดอลที่เน้นความสามารถมากกว่าภาพลักษณ์" การที่พวกเขาเขียนเนื้อเพลงเอง เรียบเรียงเอง คิดท่าเต้นเอง และออกแบบสไตล์ให้ตัวเอง บิ๊กแบงถูกยกให้เป็นไอดอลรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนวงอื่นในท้องตลาดขณะนั้น ทันทีที่พวกเขาเปิดตัวด้วยเสื้อผ้าสีขาวดำ เพ้นท์หน้าเพ้นท์ตา ใส่หมวกเอียงๆ และทำตัวเหมือนพวกนักเลงสตรีท บิ๊กแบงก็ได้รับฉายาใหม่ทันทีว่า 'ด้านมืดของไอดอล'

"หลังจากที่เดบิ๊วแรกๆ ผมก็ยิ่งต้องทำให้สมาชิกในกลุ่มพยายามมากขึ้นอีก มันเป็นหน้าที่ของลีดเดอร์น่ะครับ ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกที่จะต้องสวมบทบาทเป็นหัวหน้าที่โหดร้าย ตอนที่ผู้คนเห็นผมภายนอกอาจจะพูดว่าผมมันงี่เง่า แต่ตอนที่ผมกำลังทำงาน ผมคำนวณทุกอย่างไว้หมดแล้วด้วยนิสัยของคนกรุ๊ป A ผมบอกตัวเองเสมอว่าต้องใส่ใจและจริงใจ หลายคนถึงได้บอกว่าผมโหดตอนทำงาน"

ในระหว่างเวลาพัก จียงจะเป็นแค่พี่ชายขี้เล่นที่ชอบทำตัวน่ารำคาญและกวนประสาทคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย แต่พอถึงเวลาทำงาน เขาน่ากลัว ดุ และไม่ลังเลที่จะวิจารณ์สมาชิกในทีมอย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าโดยปกติแล้วจียงจะเป็นพวกที่ทำตัววุ่นวายยิ่งกว่ารุ่นน้องอย่างแดซองหรือซึงริ แต่เขาจะกลายเป็นลีดเดอร์ที่เข้มงวดทันทีที่ต้องทำงาน

"ผมซ้อมหนักมากแล้วก็แต่งเพลงอย่างบ้าระห่ำ อันที่จริงผมตั้งใจจะให้เพลง 'Lie' เป็นเพลงเดี่ยวของผมครับ เพราะว่าตอนนั้นเพลงของเราอยู่ในสไตล์ House แล้วประธานยางฮยอนซอกกำลังอยู่ที่ญี่ปุ่นหรือฮ่องกงพอดี ผมจึงส่งเพลงนี้ไปให้เขาฟังครับ มันน่าเขินนิดหน่อยเพราะผมเพิ่งเขียนมันขึ้นมาและคิดว่าท่านประธานต้องวิจารณ์แน่ๆ แต่หลังจากส่งไปไม่ถึง 5 นาทีเขาก็โทรกลับมาหาผมทันทีเลย พร้อมกับบอกว่า 'ต้องแบบนี้สิ! ใช่เลย! นายลืมงานเดี่ยวของนายไปได้เลยและให้มันเป็นเพลงของบิ๊กแบงซะ มันต้องจะต้องเป็นเพลงโปรโมต'"

สิ่งแรกที่จียงรู้สึกก็คือผิดหวัง ท่านประธานสัญญากับเขาเรื่องที่จะให้เขาออกโซโล่ และเขาก็ไม่รู้ว่ารอมันมานานเท่าไรแล้ว ในฐานะศิลปินและคนธรรมดา เพื่อส่วนรวมหรือเพื่อตัวเอง? ความผิดหวังย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

"ผมใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนเขียนเพลงนั้น แล้วก็ต้องเขียนใหม่เพื่อให้ทุกคนในวงสามารถร้องไปด้วยกันได้ ประธานยางบอกว่า 'นี่ไม่ใช่เพลงของนาย แต่เป็นของบิ๊กแบง' ผมทำเพลงเองมาตั้งแต่อัลบั้มแรก ในฐานะของโปรดิวเซอร์แล้ว ผมคิดว่าบิ๊กแบงสำคัญมากกว่าตัวเองแน่นอน แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนกับว่าน้ำตาจะไหลออกมา"

จีดราก้อนวัย 20 ปีในตอนนั้นจ้องมองไปที่นอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย เช้าวันใหม่ได้มาถึงแล้ว และมันจะต้องสดใสกว่าเดิมอย่างแน่นอน





Article : kr.news.yahoo.com
Translation : sookyeong.wordpress.com
Thai-Translation : pphelpz.exteen.com / @pphelpz

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น